วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ

การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
      การอักเสบของทางเดินปัสสาวะที่สำคัญ  ประกอบด้วยโรคที่สำคัญ ๓ โรค ด้วยกัน คือ
ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบเฉียบพลัน
ไตและกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
ไตและกรวยไตอักเสบเรื้อรัง
      การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ  เป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก และเป็นโรคซึ่งอาจจะทำให้มีการทำลายของเนื้อไตได้ในภายหลังจนถึงกับเกิดมีภาวะไตวายเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญของผู้ป่วยโรคไตถ้าไม่เข้ารับการรักษาที่ถูกต้องโดยเร็ว บัคเตรีที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ อีโคไลสตาฟิโลค็อกคัส ออรีอุส (Staphylococcus aureus) โพรเทอุส วัลการิส (Proteus vulgaris) ซูโดโมนัสไพโอไซอาเนีย (Pseudomonas pyosyanea) สเตร็ปโตค็อกคัส ฟีคาลิส (Streptococcus  faecalis) นอกจากนี้ บัคเตรีประเภทโกโนค็อกไซ  (gonococci) ก็พบได้บ่อยเช่นเดียวกัน      การอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนล่างเฉียบพลันเป็นโรคซึ่งพบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยหญิง ทั้งนี้เพราะว่าในผู้หญิงมีหลอดปัสสาวะสั้นทำให้เชื้อโรคมีโอกาสที่จะกระจาย ได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริเวณส่วนขาหนีบ โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยและมักจะกระตุ้นให้มีอาการได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีอันตรายเพียงเล็กน้อย  เช่น  จากการร่วมเพศ อาการที่สำคัญ ได้แก่ อาการถ่ายปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย และอาจจะมีอาการทั่วๆ ไปอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบร่วมด้วย อาการดังกล่าวมักจะดีขึ้นได้ภายใน ๒-๓ วัน แต่อาจจะมีอันตรายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดเชื้อดังกล่าว อาจจะเกิดซ้ำขึ้นได้อีก และอาจจะมีการลุกลามของเชื้อขึ้นไปสู่กระเพาะปัสสาวะ หลอดไต จนถึงกรวยไต ทำให้มีกรวยไตและเนื้อไตอักเสบเฉียบพลันขึ้นได้ การตรวจปัสสาวะมักพบว่า มีเม็ดเลือดขาวและการเพาะเชื้อจากปัสสาวะอาจพบบัคเตรีที่เป็นสาเหตุด้วย ในผู้ป่วยที่มีอาการแพทย์จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะที่ไวต่อเชื้อกรวยไตและไตอักเสบเฉียบพลัน
      โรคกรวยไตและไตอักเสบเฉียบพลันนี้  มักจะเป็นผลเนื่องจากมีการลุกลามของบัคเตรีจากการอักเสบติดเชื้อของทางเดิน ปัสสาวะขึ้นไปตามหลอดไตจนถึงบริเวณกรวยไต นอกจากนี้การอักเสบอาจกระจายมาตามกระแสเลือดได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกไซ การที่ปัสสาวะไม่สามารถไหลจากบริเวณกรวยไตออกไปสะดวก ทำให้มีการคั่งค้างของปัสสาวะ จะทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อชนิดนี้ได้บ่อย เช่น ในหญิงมีครรภ์ ในชายที่มีการอุดกั้นของบริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ  เช่น จากต่อมลูกหมากโต หรือในผู้ป่วยที่เป็นโรคของระบบประสาททำให้มีความผิดปกติของการถ่ายปัสสาวะ และในผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในไต เป็นต้น ในรายที่เป็นรุนแรง การอักเสบติดเชื้อนั้นจะลุกลามเข้าไปสู่เนื้อของไต ทำให้เนื้อของไตอักเสบ      อาการที่เกิดขึ้นมักจะเกิดขึ้นทันทีโดยอาจจะมีประวัติของการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะส่วนล่างนำมาก่อนผู้ป่วยมักมีอาการทั่วไปมากกว่าในการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง  เช่น มีไข้ หนาวสั่นอ่อนเพลีย ปวดหรือเมื่อยที่บริเวณหลังใกล้กับที่ตั้งของไตทั้งสองข้าง ปวดที่บริเวณหัวหน่าว ปัสสาวะบ่อยและขัด  การตรวจอาจพบว่ามีการกดเจ็บที่บริเวณไตข้างเดียวหรือสองข้าง   มีเม็ดเลือดขาวในเลือดสูงเกินปกติและมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

ขอบคุณขอมูลจาก
http://www.piyavate.com/article/frontend/article_detail/id/323

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น